เสริมจมูกครั้งแรก สวยปัง รับกับทุกรูปหน้า

เสริมจมูกครั้งแรก ควรเลือกทําแบบไหน? จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดูสวยเป็นธรรมชาติ ทรงจมูกรับกับใบหน้าได้อย่างเหมาะสม หลายคนที่กําลังสนใจการศัลยกรรมจมูก เสริมจมูกครั้งแรกอาจ ยังรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเพราะกลัวว่าหลังเสริมจมูกมาแล้วจะไม่ได้ทรงที่ต้องการหรือเกิดปัญหาที่ ต้องตามแก้ไขแบบไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็น จมูกเบี้ยว จมูกเอียง ซิลิโคนลอย ซิลิโคนจมูกทะลุ ฯลฯ แทนที่จะได้ทรงจมูกที่สวยเด่นเข้ากับใบหน้าถึง อย่างไรก็ตาม การเสริมจมูกครั้งแรกอาจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าหากเราได้ศึกษาข้อมูลและ เตรียมความพร้อมอย่างเหมาะสม บทความนี้จากบีพราวด์ คลินิก (Bepoud Clinic) รวมทุก ข้อมูลต้องรู้ก่อนตัดสินใจเสริมจมูกครั้งแรกมาแบบจบครบ การศัลยกรรมเสริมจมูกเหมาะกับ ใคร? เทคนิคการเสริมจมูกมีกี่แบบ ทรงจมูกแบบไหนสวย? การดูแลตัวเองก่อนและหลังเสริมจมูก เพื่อให้ผู้ที่กําลังสนใจศัลยกรรมเสริมจมูกมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้อย่างครบถ้วน ช่วยลดภาวะความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด สร้างผลลัพธ์การเสริมจมูกครั้งแรกที่สวยงามตรงใจและคุ้มค่าได้มากที่สุด 

เสริมจมูก ศัลยกรรมเสริมจมูก คืออะไร

เสริมจมูก ศัลยกรรมเสริมจมูก (Rhinoplasty) คือ การผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อตกแต่งแก้ไขรูป ทรงของจมูกให้ดูโด่งสวย มีมิติมากยิ่งขึ้น สามารถแก้ไขรูปทรงจมูกที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แก้ไขจมูกหลังประสบอุบัติเหตุรวมถึงในเคสที่ต้องการเสริมจมูกเพื่อปรับโหงวเฮ้งใบหน้าให้ดีขึ้นตามความเชื่อส่วนบุคคลโดยการเสริมจมูกที่ดีจะต้องสร้างอัตราส่วนของจมูกต่อใบหน้าได้อย่างพอเหมาะ รวมไปจนถึงการทํามุมระหว่างหน้าผาก ร่องเหนือริมฝีปากและคาง ซึ่งต้องอาศัยความชeนาญและประสบการณ์ของแพทย์เป็นอย่างดี มีการประเมินลักษณะโครงสร้างจมูกและใบหน้าของผู้เข้ารับบริการแต่ละรายบุคคลอย่างละเอียด เพื่อสร้างทรงจมูกที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้ารับบริการได้มากที่สุด

ศัลยกรรมเสริมจมูก เหมาะกับใครบ้าง

การศัลยกรรมจมูกเป็นการทําศัลยกรรมที่เหมาะสําหรับทุกคนที่ต้องการปรับแต่งหรือแก้ไขทรง ทั้งนี้แนะนําว่าผู้ที่ต้องการเสริมจมูกครั้งแรกควรมีอายุตั้งแต่ 20 ปี จมูกให้สวยงามมากยิ่งขึ้น เป็นต้นไปเพราะเป็นช่วงที่ร่างกายเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของใบหน้าได้น้อย หรือเร็วสุดคือ 18 ปี แต่ก็มีโอกาสที่โครงสร้างใบหน้าเปลี่ยนแปลงได้ โดยการศัลยกรรมเสริมจมูกเหมาะกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้

ทรงจมูกสวย ที่ได้รับความนิยมมีทรงไหนบ้าง

ปัจจุบันมีทรงจมูกสวย ๆ ที่ได้รับความนิยมหลากหลายทรง ผู้ที่กําลังตัดสินใจเสริมจมูกครั้งแรก สามารถเลือกทรงจมูกที่ชอบและใช้เป็นเรฟ (Reference) เพื่อปรึกษาความต้องการและ ออกแบบวางแผนร่วมกันกับแพทย์ผู้ชํานาญการให้ได้ทรงจมูกที่สวยตรงใจมากที่สุด โดยทรงจมูกสวยที่ได้รับความนิยมในกลุ่มชาวเอเชียรวมถึงชาวไทย มีดังนี้

เป็นทรงจมูกสวยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะจมูกทรงนี้จะช่วยเสริมให้สันจมูก ดูยาวมากขึ้น บริเวณสันจมูกจะไม่สูงจนเกินไป ส่วนช่วงปลายจมูกดูกลมมนและคล้อยอย่างเป็นธรรมชาติ ดูคล้ายหยดน้ํา ช่วยทําให้ใบหน้าดูเรียวยาวและสวยหวาน ตัวอย่าง ดาราที่มีจมูกทรงนี้ เช่น จีซู Blackpink, โกยุนจุง (Go YoonJung), พัคโบยอง (Park BoYoung)

ทรงจมูกที่เน้นปรับความสโลปของสันจมูกตรงช่วงหัวตาให้รับกับหน้าผากได้อย่างพอเหมาะและปรับแต่งช่วงปลายให้ดูเชิดขึ้นเล็กน้อย เหมาะกับคนที่ต้องการเสริมจมูกครั้ง แรกและมีปัญหาปลายจมูกงุ้ม สันจมูกกว้าง ตัวอย่างดาราที่มีจมูกทรงนี้ เช่น เจนนี่ แบ ล็กพิงค์ (Jennie Blackpink), มินจี นิวจีนส์ (Minji Newjeans), แบซูจี (Bae Suzy), แท ยอน เกิร์ล เจเนอเรชั่น (Taeyon Girls’ generation)

เป็นทรงจมูกสวยที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ต้องการเสริมจมูกครั้งแรก เนื่องจากเป็นทรงจมูกที่เน้นช่วงสันให้มีความเรียวสวย จมูกสูงโด่งเข้ากับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วงปลายจมูกเชิดพุ่งขึ้นทําให้ใบหน้าดูได้มิติและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ตัวอย่าง ดาราที่มีจมูกทรงนี้ เช่น ลิซ่า แบล็คพิงค์ (Lisa Blackpink), ซอเยจี (Seo Yea Ji), ไอรีน Red Velvet, Miyeon (Cho Mi-yeon)

เป็นทรงจมูกที่เน้นการปรับช่วงสันให้ดูสูงโด่ง โดยมีสโลปบริเวณหัวตาและหน้าผากรับกันอย่างดี มีการปรับแต่งช่วงปลายจมูกให้มีขนาดเล็กลงและเชิดสูงขึ้นดูคล้าย ตุ๊กตาบาร์บี้ เป็นทรงจมูกที่เสริมลุคโฉบเฉี่ยว มีเสน่ห์ ตัวอย่างดาราที่มีจมูกทรงนี้ เช่น Rose Blackpink, ไอซ์ อภิษฎา, โฟร์ ศกลรัตน์, ใหม่ ดาวิกา, หญิง รฐา 

เป็นทรงจมูกที่ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบสไตล์สายฝอ ด้วยการปรับเสริมช่วงสันจมูกให้ดู สูงโด่ง เป็นคมอย่างชัดเจน และบริเวณปลายจมูกจะต้องเชิดขึ้นรับกับช่วงสันได้อย่าง ลงตัว ทรงจมูกนี้เหมาะกับผู้ต้องการเสริมจมูกครั้งแรก ผู้ที่ต้องการปรับให้ใบหน้าโดย รวมดูสวยคม สายฝอ ตัวอย่างดาราที่มีจมูกทรงนี้ เช่น ญาญ่า อุรัสยา, พิมพิม ประภา, ปันปัน สุทัตตา

ทรงจมูกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ได้อย่างลงตัวที่สุด ด้วยการใช้เทคนิค และรายละเอียดสุดพิเศษในการศัลยกรรมจมูกของแพทย์ผู้ชํานาญการประจํามีพราวด์คลินิก มีการประเมินโครงสร้างใบหน้าและออกแบบทรงจมูกเฉพาะรายบุคคล มีการใช้ ลิโคนเกรดพรีเมียมและเหลาซิลิโคนอย่างละเอียดตามโครงสร้างของรูปหน้าเพื่อสร้าง ผลลัพธ์ทรงจมูกที่เข้าใบหน้าของคนไข้ในแต่ละเคสได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีการเย็บล็อก 2 ชั้น ป้องกันการเคลื่อนตัวของซิลิโคน ทรงจมูก Slope Angel จึงสวยเด่นเป็นธรรมชาติ ไม่ซ้ําใคร

เทคนิคการเสริมจมูก มีกี่เทคนิค เหมาะกับใคร

ปัจจุบันเทคนิคการเสริมจมูกที่แพทย์นิยมใช้มีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ ได้แก่ เทคนิค การเสริมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty) และเทคนิคการเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) ซึ่งแต่ละเทคนิคมีรายละเอียดข้อดี ข้อเสีย และช่วยแก้ไขปัญหาทรงจมูกที่แตก ต่างกัน ดังนี้

เทคนิคการเสริมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty) เป็นเทคนิคการเสริมจมูกด้วย การผ่าตัดเปิดแผลขนาดเล็กที่ด้านในของรูจมูกข้างใดข้างหนึ่ง ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดของแพทย์แต่ละท่าน จากนั้นจึงทําการสอดแท่งซิลิโคนที่เหลา ปรับขนาดเฉพาะบุคคลไปตามแนวสันจมูก โดยวางให้แนบกับฐานจมูกมากที่สุด ส่วนมากนิยมใช้เทคนิคอื่น ๆ ร่วมด้วยเพื่อปรับช่วงปลายจมูกให้เรียวสวย ลดโอกาสปลายจมูกทะลุ เช่น การเย็บอินเตอร์โดม การรองปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลัง ใบหู กระดูกอ่อนซี่โครง กระดูกก้นกบ หรือเนื้อเยื่อเทียม การเสริมจมูกแบบปิดเป็นเทคนิคที่เหมาะกับคนไข้ที่โครงสร้างฐานจมูกดีอยู่แล้ว จมูกไม่สั้น เนื้อปลายจมูกไม่น้อยจนเกินไป และต้องการปรับช่วงสันจมูกให้ชัดขึ้น เสริมปลายจมูก ให้เรียวยาวมากขึ้นอีกเล็กน้อย

เทคนิคการเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) เป็นการศัลยกรรมจมูกที่แพทย์ จะทําการผ่าตัดเปิดแผลภายในรูจมูกทั้ง 2 ข้างและที่บริเวณใต้ฐานจมูกด้านนอกและกรีฑ แผลเป็นแนวดิ่งจนเห็นแกนจมูก เพื่อเปิดผิวหนังออกจากโครงสร้างจมูกทําให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างของกระดูกอ่อนและแนวสันจมูกได้อย่างชัดเจน สามารถเลือกใช้เทคนิคที่ ช่วยแก้ไขและปรับโครงสร้างภายในจมูกได้อย่างครอบคลุม เช่น การตอกฐาน จมูกในเคสที่มีฐานจมูกใหญ่และกว้างมาก การตกแต่งแก้ไขผนังกั้นจมูก การยึดผนังกั้นจมูก การตะไบฮัมพ์เพื่อลดปุ่มกระดูกช่วงสันจมูก ฯลฯ เทคนิคการเสริมจมูกแบบเปิดเหมาะกับคนไข้ที่ต้องการปรับแต่งโครงสร้างจมูกให้ต่างไปจากเดิมอย่างชัดเจน มีปัญหาจมูกให้ต้องจัดการค่อนข้างมาก จมูกสั้น เนื้อจมูกบาง ปลายจมูกงุ้ม สันจมูกคดหรือ โก่งงอ ข้อควรระวังสําหรับการเสริมจมูกด้วยเทคนิคแบบเปิด คือ เป็นเทคนิคที่มีความซับซ้อนใช้เวลาในการผ่าตัดนานหลายชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับปัญหาในแต่ละเคส) และต้องใช้ การดมยาสลบ แพทย์ผู้ทําการผ่าตัดจะต้องมีความชํานาญ มีประสบการณ์สูงและมีวิสัญญีแพทย์ดูแลตลอดทุกขั้นตอนของการผ่าตัด

ศัลยกรรมเสริมจมูก เลือกเทคนิคไหนดี? การตัดสินใจว่าควรเลือกใช้เทคนิคการเสริมจมูก แบบใดนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งลักษณะโครงสร้างฐานจมูกเดิมของคนไข้ หรือความซับซ้อนของปัญหาที่แพทย์ต้องแก้ไข ทรงจมูกใหม่ที่ต้องการ รวมไปจนถึงระยะเวลาที่ ใช้สําหรับการพักฟื้นและงบประมาณในการศัลยกรรมเสริมจมูกของคนไข้แต่ละบุคคล ดังนั้นก่อนตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกจึงควรเข้าพบแพทย์เพื่อขอรับคําแนะนําและ วางแผนการศัลยกรรมเสริมจมูกที่เหมาะสมตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด

ซิลิโคนเสริมจมูก มีกี่แบบ?

ปัจจุบันซิลิโคนจมูกที่ใช้ร่วมกับการศัลยกรรมเสริมจมูกมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่

ซิลิโคนจมูกแบบสําเร็จรูป เป็นซิลิโคนที่ถูกออกแบบและกําหนดรูปทรงไวอย่างแน่นอน สะดวกต่อการใช้งานและมีให้เลือกใช้หลายไซซ์ หลายทรง เช่น ซิลิโคนจมูกทรงแมนทิส ทรงบาร์บี้ ซิลิโคนบราว ฯลฯ ข้อดีของซิลิโคนจมูกแบบสําเร็จรูปคือมีรูปทรงที่อยู่ตัว แน่นอนมากกว่า แพทย์สามารถเหลาปรับขนาดซิลิโคนได้ตามความเหมาะสมช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการเบี้ยวหรือเอียง

ซิลิโคนจมูกแบบเหลาหรือซิลิโคนจมูกแบบแท่ง เป็นซิลิโคนที่มีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ซึ่งแพทย์จะต้องออกแบบและเหล่าขึ้นรูปซิลิโคนเองทั้งหมด การ เลือกใช้ซิลิโคนจมูกแบบแท่งจึงต้องอาศัยความชํานาญและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ ทําการรักษาเป็นอย่างมาก ข้อดีของซิลิโคนจมูกชนิดนี้คือ สามารถออกแบบทรงจมูกที่ เข้ากับใบหน้าของคนไข้แต่ละเคสได้เป็นอย่างดี ซิลิโคนยึดกับฐานจมูกได้อย่างแนบ สนิทเพราะมีการเหลาปรับแต่งซิลิโคนแบบจุดต่อจุด

นอกจากนี้ ซิลิโคนเสริมจมูกยังมีให้เลือกใช้หลายเกรด (Grade) จากหลายประเทศ ทั้งซิลิโคนอเมริกา (USA Silicone) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความบริสุทธิ์ ปลอดภัย เนื้อซิลิโคนยืดหยุ่นมาก ที่สุดและสามารถล็อกเข้ากับฐานจมูกได้ดี ซิลิโคนจมูกเกาหลี (Korea Silicone) ที่ช่วงโคน และปลายจมูกนิ่มมากและมีค่าความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการเสริมจมูกทรงสโลปปลายพุ่ง ช่วง ปลายจมูกนิ่มบิดได้ ซิลิโคนจมูกญี่ปุ่น (Japan Silicone) ซิลิโคนจะมีสีเหลืองมากกว่าเกรดอื่น ๆ เนื้อซิลิโคนแข็งปานกลางและยืดหยุ่นน้อยกว่าซิลิโคนเกาหลี

การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก เสริมจมูกครั้งแรก

เพื่อให้การเสริมจมูกครั้งแรกเป็นไปอย่างราบรื่น ปราศจากภาวะข้างเคียงหลังการผ่าตัด เช่น มีเลือดออกมากกว่าปกติ อาการบวมช้ําหรือมีการอักเสบของแผล ผู้เข้ารับบริการจึงควรเตรียมตัว ก่อนเสริมจมูก ดังนี้

▶ งดสูบบุหรี่และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนการศัลยกรรมจมูกอย่างน้อย 2 สัปดาห์
▶ ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด ควรงดยา วิตามิน หรืออาหารเสริมทุกชนิดที่มีส่วน กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เช่น ยาสมุนไพร วิตามินซี วิตามินดี ยาแอสไพริน สาร สกัดถั่งเช่า แปะก๊วย ฯลฯ เพื่อป้องกันภาวะเลือดออกมากในระหว่างการรักษา
▶ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินปัญหาทรงจมูกและวางแผนการรักษาร่วมกัน ทั้งนี้คนไข้จะ ต้องแจ้งข้อมูลที่มีความจําเป็นให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด ได้แก่ ข้อมูลสุขภาพ โรค ประจําตัว ยาที่ต้องใช้เพื่อรักษาโรค ประวัติการแพ้ยา แพ้อาหาร รวมไปจนถึงราย ละเอียดหัตถการอื่น ๆ ที่เคยทําบริเวณจมูกมาแล้วในช่วงก่อนหน้า 
▶ งดแต่งหน้าในวันที่ต้องผ่าตัดเสริมจมูก สําหรับผู้ชายควรโกนหนวดให้เกลี้ยงก่อนผ่าตัด เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลแผลหลังผ่าตัด
▶ งดแต่งหน้าในวันที่ต้องผ่าตัดเสริมจมูก สําหรับผู้ชายควรโกนหนวดให้เกลี้ยงก่อนผ่าตัด เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลแผลหลังผ่าตัด
▶ ในกรณีที่ใช้เทคนิคการเสริมจมูกแบบเปิดที่ต้องมีการดมยาสลบ จะต้องงดอาหารและ เครื่องดื่มตามคําสั่งแพทย์เพื่อป้องกันการสําลักโดยไม่รู้ตัวในระหว่างการผ่าตัด
▶ ควรมีญาติหรือผู้ติดตามมาด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลัง การผ่าตัด งดขับขี่ยานพาหนะและงดใช้เครื่องมือหรือเครื่องจักรที่อาจทําให้เกิดอุบัติเหตุอันตราย
▶ ควรมีเวลาสําหรับการพักฟื้นเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเข้ารับการผ่าตัดเพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก เสริมจมูกครั้งแรก

อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามสําหรับการเสริมจมูกครั้งแรก คือ การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก อย่างถูกต้องเหมาะสมเพื่อช่วยให้รอยแผลหายช้ํา ยุบบวมไว จมูกเข้าที่ได้เร็ว และลดโอกาสที่จะ เกิดปัญหาหลังเสริมจมูก เช่น มีอาการช้ํานานกว่าปกติ มีเลือดคั่งที่รอยแผล จมูกอักเสบและติด เชื้อ ซิลิโคนเอียง จมูกเบี้ยว ฯลฯ โดยควรดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกตามคําแนะนําของแพทย์ อย่างเคร่งครัด ดังนี้

▶ หลังการเสริมจมูกอาจทําให้มีอาการบวมช้ําได้เป็นปกติ สามารถบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ ด้วยการประคบเย็นในช่วง 3 วันแรกเพื่อช่วยให้เส้นเลือดหดตัว ลดอาการบวมช้ํา หลัง จากนั้นให้เปลี่ยนไปประคบอุ่นในวันที่ 4 และประคบต่อไปเรื่อย ๆ จนจมูกเริ่มเข้าที่
▶ ในช่วง 5 วันแรกหลังการผ่าตัดควรนอนหมอนสูงกว่าปกติเพื่อช่วยลดอาการบวมช้ํา และ ซึ่งอาจทําให้ซิลิโคนจมูกใช้หมอนล็อกคอเพื่อป้องกันการเผลอนอนตะแคงหรือนอนคว่ําเคลื่อนที่ได้
▶ ควรดูแลทําความสะอาดรอยแผลเป็นประจําทุกวันตามวิธีการที่คลินิกแนะนํา โดยควรล้างแผลอย่างต่อเนื่องประมาน 2-3 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะแห้งสนิทโดยควรล้างแผลอย่างต่อเนื่องประมาณ
▶ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลสัมผัสกับความชื้นโดนน้ําหรือเหงื่อโดยตรงจนกว่าจะครบ 14 วัน ซึ่งเป็นช่วงกําหนดนัดตัดไหม
▶ งดล้างหน้าหรือแต่งหน้าจัด ๆ จนกว่าจะครบกําหนดตัดไหม สามารถทาครีมบํารุงผิว และครีมกันแดดได้ โดยทาเว้นช่วงบริเวณจมูก หลีกเลี่ยงไม่ให้ผลิตภัณฑ์สัมผัส กับรอยแผลโดยตรง และทําความสะอาดผิวด้วยการใช้คลีนซิ่งชนิดแผ่นหรือใช้โทนเนอร์เช็ดทําความสะอาดหน้าแทนการล้างหน้า
▶ ในช่วง 2 สัปดาห์หลังการเสริมจมูกควรงดกิจกรรมบางอย่าง เช่น การออกกําลังกาย การยกของหนัก การก้ม ๆ เงย ๆ หรือกิจกรรมที่ต้องก้มหน้าเป็นเวลานาน รวมไปถึงการไอ จาม การสั่งน้ํามูกหรือขยี้จมูกแรงๆ (หากเป็นหวัด มี น้ํามูก ควรรับประทานยาแก้แพ้หรือยาลดน้ํามูก)
▶ใช้คอนแทคเลนส์แทนการใส่แว่นสายตา หลีกเลี่ยงการใส่แว่นแฟชั่น แว่นกันแดดเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือนหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันน้ําหนักของแว่นกดทับจมูก และทําให้ซิลิโคนจมูกเคลื่อนออกจากตําแหน่ง

เสริมจมูกครั้งแรกให้สวยปัง จมูกใหม่รับเข้ากับใบหน้าได้อย่างพอเหมาะ ช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้า ได้ครบทุกมุมไม่ว่าจะเป็นด้านข้างหรือหน้าตรง สําหรับผู้ที่สนใจการศัลยกรรมเสริมจมูกเป็นครั้ง แรกควรศึกษาข้อมูลควรรู้ก่อนเข้ารับการผ่าตัดโดยละเอียด ทั้งลักษณะทรงจมูกสวยที่รับกับ ใบหน้าและโครงสร้างฐานจมูก เทคนิคการเสริมจมูก ชนิดและเกรดของซิลิโคนจมูก การเตรียม ตัวก่อนการเสริมจมูก ตลอดไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกอย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อ ช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะข้างเคียงหลังการศัลยกรรมเสริมจมูก สู่ผลลัพธ์ทรงจมูกที่ดูสวยเป็นธรรมชาติได้อย่างใจปรารถนา